วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

...การดูแลผิวหน้า....เมื่อเข้าหน้า..หนาว...





ใกล้จะย่างเข้าหน้าหนาวแล้ว สุขภาพผิวพรรณในช่วงนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ผิวหน้าจะแห้งตึงได้ง่าย การบำรุงดูแลผิวหน้า อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง จึงแนะนำขั้นตอนดูแลผิวในช่วงหน้าหนาว
1. เช็คผิวหน้าก่อนว่า ลักษณะผิวในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสมในช่วงนี้
2.ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ควรเลือกที่ไม่มีฟองมากนัก เพราะฟองมากๆ จะทำให้ผิวหน้าแห้งตึงได้ง่าย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ที่มีส่วนประกอบของสารเคลือบผิว เช่น Lanolin, Urea ซึ่งมักจะพบในกลุ่มเจลล้างหน้า หรือโฟมไม่มีฟอง เพื่อลดการสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงผิว
3.ไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะทำให้ผิวหน้าแห้งตึงมากขึ้น
4. ไม่ควรดูดสิวเสี้ยนในช่วงนี้ เพราะจะทำให้รูขุมขนกว้างได้ง่าย
5. งดหรือละเว้นการขัดหน้าด้วยครีมที่มีเม็ดขัดหน้า
6. ควรดื่มน้ำสะอาด มากๆ เพื่อเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงผิว
7. ควรล้างเครื่องสำอางออกให้หมดเกลี้ยง เมื่อกลับถึงบ้านและทาครีมบำรุงผิวทันที
8. สำหรับผิวผสม บริเวณ T-zone ที่มันอาจใช้สบู่ล้างหน้า หรือโลชั่นเช็ดหน้าได้บ้าง
9. มาส์คหน้าอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ด้วยครีมบำรุง สำหรับสาวผิวแห้ง
10. หลีกเลี่ยงการทำ Peeling ไม่ว่าด้วย AHA, BHA, TCA หรือครีม เจลที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ เพื่อป้องกันผิวหน้าลอกมากขึ้น
11. กรณีที่ทำไอออนโตประจำ แนะนำให้ลดความเข้มข้นของวิตามินเอที่ใช้ทำประจำ และเพิ่มสารหล่อลื่นผิว เช่น Hyaluronic
12. กรณีที่รับประทานยากลุ่มเรตินอยด์ เช่น roaccutane, acnotin, lsotane อาจจะต้องลด Dase ของยาลง หรืองดรับประทาน ถ้าผิวหน้าแห้งตึงมาก
13. นวดหน้าด้วยครีมบำรุง อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของโลหิต
14. ทาครีมบำรุง (Moisturizer) เช้าและก่อนนอนทุกวัน
15. เมื่อมีปัญหาด้านผิวหน้า ควรพบแพทย์ประจำทันที
16. ในผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าอักเสบเซ็บเดิร์ม อาจจะมีอาการกำเริบได้ การทาครีมแก้แพ้ ครีมบำรุงผิวและพักผ่อนให้เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบ เช่นอัลกอฮออล์ เครียด
17.หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า การผิงไฟ หรือความร้อนที่ให้ร่างกายอบอุ่น เพราะจะยิ่งเพิ่มการแตกแห้งตึงของผิวพรรณ

ขั้นตอนการทาครีมบำรุงผิว

1. ทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด แล้วเลือกปริมาณครีมที่ต้องใช้ให้พอเหมาะตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม เพราะถ้าน้อยเกินไปก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควรหรือถ้ามากเกินไปก็จะทำให้ผิวหน้ามันเกินไป และก็เปลืองโดยใช่เหตุ ซึ่งส่วนใหญ่จะประมาณ 1 ข้อมือหรือ 1 ลูกเชอรร์รี่
2. เริ่มแต้มครีมที่บริเวณ 5 จุด ของใบหน้า คือ หน้าผาก จมูก แก้มทั้ง 2 ข้าง และคาง
3. ใช้นิ้วกลางและนิ้วนาง ในการเกลี่ยวนบริเวณที่กว้างที่สุดก่อน เช่น โหนกแก้ม โดยเริ่มจากส่วนกลางไปยังส่วนข้างๆ โดยทาด้านซ้ายออกซ้าย และทางด้านขวาออกขวา แล้วตามด้วยแนวสันจมูกใต้โพรงจมูก คาง และหน้าผาก โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ เพราะอาจจะต้องใช้ครีมชนิดเฉพาะรอบดวงตาทาแทน
4. การลงน้ำหนักนิ้วควรจะเบาที่สุด เพราะผิวหน้าเป็นผิวที่บอบบาง ควรได้รับทะนุถนอม ถ้าลงน้ำหนักแรงเกินไป อาจจะทำให้เกิดรอยย่นในภายหลังได้
5. การทาครีมรอบดวงตา ควรใช้ปริมาณเนื้อครีมประมาณ 1 เมล็ดถั่วเขียว แล้วใช้นิ้วนางเพียงนิ้วเดียวในการทา เพราะจะน้ำหนักกดเบาที่สุด แล้วทาครีมไล่ตามแนวโครงกระดูกเบ้าตา อาจจะเริ่มที่หัวตาหรือหางตาก่อน แล้ววนครีมรอบๆ ดวงตาจะวนเข้าหรือวนออกก็ได้ แต่ต้องวนไปในทิศทางเดียวกันทั้งสองข้าง
6. การทาครีมบริเวณลำคอ ควรใช้ปริมาณเนื้อครีมเท่ากับที่ใบหน้าประมาณ 1 ข้อมือ โดยเริ่มจากบริเวณที่กว้างที่สุดของลำคอก่อนคือ บริเวณฐานลำคอแล้วใช้ปลายนิ้วทั้งหมดค่อยๆ ลูบไล้ขึ้น ไม่ควรทาลง เพราะจะทำให้ผิวบริเวณลำคอหย่อนยานไปตามแนวโน้มถ่วง ทำให้เกิดรอยย่น
7. การทาครีมบริเวณหน้าอก อาจจะใช้ครีมที่เหลือจากลำคอ ทาลูบไล้ช่วงอกต่อไปได้ โดยการใช้ปลายนิ้วลูบไล้เพียงเบาๆ และวนให้ทั่วแผ่นอก เพื่อการซึมซับของเนื้อครีมสู่ผิว แล้วค่อยไล่ทาไปที่หน้าท้องและส่วนหลัง
8. การทาครีมบริเวณแขน จะใช้ครีมประมาณมาก โดยเริ่มต้นที่ต้นแขนด้านท้องแขนก่อน แล้วทาวนขึ้นหลังแขน โดยใช้ปลายนิ้วลูบไล้เพียงเบาๆ เพื่อการซึมซับของเนื้อครีมสู่ผิว
9. การทาครีมบริเวณขาและเท้า จะใช้ครีมปริมาณมากเช่นกัน โดยเริ่มต้นที่ต้นขาก่อน แล้วทาวนจากด้านต้นขาไปปลายขา โดยใช้ปลายนิ้วลูบไล้เพียงเบาๆ เพื่อการซึมซับของเนื้อครีมสู่ผิว โดยควรจะเน้นบริเวณหน้าแข้งสองข้างให้มาก เพราะบริเวณนี้จะแห้งได้ง่าย ส่วนบริเวณเท้าควรทาทั้งสองด้าน คือ หลังเท้าและฝ่าเท้า พร้อมทำการนวดไปทั่วอุ้งเท้า เพื่อผ่อนคลายและเพิ่มการไหลเวียนโลหิต

ไม่มีความคิดเห็น: